ตั้งแต่เมื่อราวๆ 20 ปีก่อน ที่ฉันได้ทำความรู้จักกับ “มาชูปิคชู” ผ่านแม่สื่อที่ชื่อ History Channel แล้วตั้งแต่นั้นเป็นต้นมา มาชูปิคชู ก็เปรียบเสมือน "ที่สุดของชีวิตการท่องเที่ยว" ของฉัน แล้วก็มาถึงวันที่ได้โอกาสพิเศษแบบไม่ทันตั้งตัว... นักเที่ยวสายแพลนอย่างฉันจะสติแตกแค่ไหน เมื่อต้องเดินทางไกลที่สุดในชีวิตโดยมีเวลาวางแผนแค่หนึ่งเดือนนิดๆ!! แม้แต่ทริปใกล้ๆ ฉันยังใช้เวลาเตรียมตัวมากกว่านี้ แต่โอกาสไม่ได้มีมาบ่อยๆ ดังนั้น ไม่ว่ามีเวลาแค่ไหนก็ต้องเตรียมตัวให้พร้อม โชคดีมากว่าฉันได้อ่านเกี่ยวกับมาชูปิคชูมามากพอ เคยแอบเตรียมตัวไว้นิดๆหน่อยๆ ทำให้อะไรๆไม่ยากจนเกินไปนัก แต่แน่นอนว่าไม่มีอะไรง่ายสำหรับ third world ปกติเวลาคนไทยเดินทางไปอเมริกาใต้ (หมายถึงจากประเทศไทย) ก็มักจะเที่ยวให้ครบทุกไฮไลท์ในทวีปนี้เพราะการเดินทางข้ามโลกมันช่างยาวนานและแน่นอนว่าค่าใช้จ่ายก็สูงไปด้วย ให้คุ้มที่สุดควรมาอย่างน้อย 3 สัปดาห์ ยิ่งถ้าได้สัก 40 วัน (ตามที่เคยมีคนรีวิวไว้ในพันทิป) ก็ยิ่งดี เพราะจะได้เก็บได้อย่างครบถ้วน แต่ชีวิตไม่ได้ง่ายอย่างนั้นสำหรับมนุษย์เงินดือนอย่างฉัน ข้อจำกัดมากมายทำให้เรามีเวลาเพียง 14 วัน แผนการที่จะไปเที่ยวในหลายๆประเทศนั้นก็เป็นอันต้องพับไปเพราะไม่อยากเที่ยวแบบจิ้มจุ่ม ตามสไตล์ของเราสองคนที่จะต้องซึมซับวัฒนธรรมในแต่ละเมือง ค่อยๆเดิน ค่อยๆดู มากกว่าที่จะแค่ถ่ายรูปกับ Landmark แล้วจากไป ในทวีปอเมริกาใต้นี้มีอะไรบ้าง ... ถ้าเอาที่รู้จักกันดี ก็จะมีน้ำตก Iguazu ที่ตั้งอยู่บนรอยต่อของประเทศบราซิลกับอาร์เจนตินา Patagonia ดินแดนเทือกเขาน้ำแข็งใต้สุดในอาร์เจนตินา ทะเลเกลือแห่งโบลิเวีย Easter Island ดินแดนลึกลับบนเกาะไกลโพ้นในชิลี และแน่นอน มาชูปิคชู ที่ฉันฝันถึงตลอดมา เมื่อมาถึงคราวที่ต้องเลือก ... คำถามคือ ถ้าชีวิตนี้จะมีโอกาสมาอเมริกาใต้เพียงครั้งเดียวฉันจะเลือกไปที่ไหน ... ไม่เห็นต้องถามเลย ไม่ต้องคิดด้วย เพราะคำตอบมันอยู่ตรงหน้า ว่าในที่สุดก็ถึงเวลาที่ฉันจะออกไปตามหาความฝันสักที วางแผนการเดินทาง
อย่างที่บอกไปว่า โอกาสมาอย่างไม่ทันตั้งตัว ฉันมีเวลาเพียงน้อยนิด ที่จะจองตั๋วเครื่องบิน จัดรูท เลือกเมือง และจองโรงแรมที่พัก เวลาส่วนใหญ่หมดไปกับการทำการบ้านว่าในแต่ละเมืองมีอะไรบ้าง ควรใช้เวลาเท่าไหร่ และ จะเดินทางข้ามเมืองยังไง สุดท้ายสรุปว่า ฉันมีวลาในเปรู 12 วัน โดยจะเที่ยวเป็นวงรีรอบประเทศ เรียกว่าเป็นทริป Grand Peru แต่ฉันอดกลัวไม่ได้ว่าเราจะเอียนเหมือนตอนไปสเปน แต่จริงๆทริปนี้น่าเป็นห่วงกว่าหลายอย่าง ทั้งเรื่องการเดินทาง อากาศ ความสูง และความ(ไม่)ปลอดภัยในทรัพย์สิน สำหรับตั๋วเครื่องบิน ด้วยเวลากระชั้นอย่างนี้ แน่นอนว่าไม่มีราคาโปรโมชั่น ฉันต้องกัดฟันซื้อตั๋วไปกลับ กรุงเทพ- Sao Paolo (บราซิล) ในราคาแปดหมื่นกว่าบาท ต่อด้วยตั๋วจาก Sao Paolo ไปยัง Lima และ Lima ไปยัง Cuzco ซึ่งการจองและจ่ายเงินให้สายการบินในทวีปนี้ไม่ง่ายเลย นอกจากนี้ การจองตั๋วเข้ามาชูปิคชู ยังเป็นอุปสรรคสำคัญอย่างยิ่ง เดี๋ยวจะเล่าให้ฟังในตอนถัดๆไป โรงแรมคือสิ่งที่ง่ายที่สุด เพราะใช้ Booking.com เพื่อนเดินทางซี้ปึ้กของฉันเหมือนเคย นอกจากนั้นแล้ว ไม่มีอะไรง่ายเลยสำหรับทริปนี้ สิ่งสำคัญอีกอย่างหนึ่งในการเตรียมตัว คือ การฉีดวัคซีนไข้เหลือง ซึ่งต้องฉีดก่อนไปเป็นเวลาสิบวัน และอย่าลืมซื้อยา Diamox เพื่อเป็นตัวช่วยในการต่อสู้กับโรคแพ้ความสูง ซึ่งเดี๋ยวจะมาเล่าในตอนถัดไปอีกเช่นกัน ยานี้หาซื้อได้ที่โอสถศาลา ตรงข้ามมาบุญครอง แนะนำว่าควรไปพบแพทย์ก่อนเดินทางเพื่อจะได้เช็คด้วยว่าแพ้ยาตัวนี้มั้ย มีเรื่องแปลกที่ว่า ทริปแรกๆที่ฉันเริ่มเดินทางยังไม่กังวลอะไรเท่าไหร่ แต่พอยิ่งเที่ยวเยอะก็ยิ่งเจอความผิดพลาดที่ไม่ได้คาดการณ์ไว้ก่อน จนตอนนี้อดกลัวไม่ได้ เลยกลายเป็นคนคาดหวังถึงความผิดหวังไว้ก่อนเลย แล้วถ้าทุกอย่างผ่านไปด้วยดีค่อยถอนใจอย่างโล่งอกทีหลัง ทริปนี้ฉันหวั่นใจที่สุดก็เรื่องมาชูปิคชูนี่แหละ ตอนจองตั๋วก็มีอุปสรรคมากพออยู่แล้ว พอตอนนี้ถึงขั้นตอน “execution” ฉันก็ยิ่งกังวล แต่อะไรจะเกิดก็ต้องเกิด ก็ต้องแก้ปัญหาเฉพาะหน้ากันไป นี่แหละรสชาติจากการท่องเที่ยว จะว่าไปการท่องเที่ยวนี่สอนเราหลายอย่างโดยที่ไม่ก่อให้เกิดความเสียหายเท่าเรื่องอื่นๆในชีวิต ไม่ว่าจะเป็นการวางแผน การเอาตัวรอด การแก้ไขปัญหาเฉพาะหน้า และการทำใจยอมรับสิ่งที่ไม่เป็นไปตามที่เราวางแผนไว้ ... ตามไปดูกันว่าทริปนี้เราจะรอดหรือไม่!!!!
0 Comments
Leave a Reply. |
Peruปุบปับเปรู Categories |